ส่งของจากญี่ปุ่นต้องเสียภาษีไหม แล้วต้องเสียเท่าไหร่? เชื่อว่าคงเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ ทั้งผู้ที่สนใจซื้อสินค้ามาใช้งานเอง หรือร้านค้าที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าเพื่อมาขายก็ตาม เนื่องจากบางคนอาจเคยมีประสบการณ์สั่งซื้อสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว บางครั้งก็ต้องเสียภาษี แต่บางครั้งกลับไม่ต้อง วันนี้เราจึงอยากจะชวนผู้ประกอบการรวมถึงผู้ที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อไปดูกันว่า จะมีหลักเกณฑ์ใดบ้างในการคิดภาษีของกรมศุลกากร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการสั่งซื้อสินค้าในครั้งต่อไปของคุณก็เป็นได้
1. สั่งซื้อของเท่าไรถึงต้องเสียภาษี?
หากเราทำการสั่งซื้อหรือส่งของจากญี่ปุ่นที่มีมูลค่าน้อยกว่า 1,500 บาท ก็ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า แต่ถ้าหากสั่งสินค้ามากกว่า 1,500 บาทขึ้นไปก็ต้องเสียภาษี ซึ่งจะมีวิธีการคำนวณ ดังนี้
วิธีการคำนวณของที่ต้องเสียภาษี
วิธีการคำนวณว่าการส่งของจากญี่ปุ่นในครั้งนี้ของเราต้องเสียภาษีไหม หรือ การคำนวณ CIF สามารถทำได้ดังนี้ CIF = ผลรวมหรือผลบวกของ 3 สิ่ง ได้แก่
- Cost (ราคาสินค้า)
- Insurance (ค่าประกันภัยขนส่งหรือค่าประกันภัย 1% ของราคาสินค้า)
- Freight (ค่าขนส่งระหว่างประเทศหรือค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง)
ซึ่งเมื่อเรานำราคาเหล่านี้มารวมกันแล้ว หากมีมูลค่าเกินกว่า 1,500 บาท ก็จะต้องทำการเสียภาษี แต่ถ้าหากราคารวมไม่ถึง 1,500 บาท ศุลกากรก็จะทำการยกเว้นภาษีให้ ทำให้เราสามารถส่งของจากญี่ปุ่นมาไทยได้เลย
การคำนวณภาษีนำเข้า
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ภาษีนำเข้า คือ ภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากผู้ที่นำสินค้าเข้ามาในประเทศไทยเพื่อเป็นการปกป้องการค้าขายสินค้าภายในประเทศให้ดำเนินต่อได้ โดยจะจัดเก็บผ่านกรมศุลกากร ซึ่งสินค้านำเข้านี้จะต้องเสียทั้งภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้ามาทางน้ำ ทางบก หรือทางอากาศ โดยสินค้าแต่ละประเภทจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันออกไป การคำนวณภาษีนำเข้านั้นจะต้องคิดทั้งหมด 3 ขั้นตอนด้วยกัน โดยจะต้องคำนวณจากอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีที่เราต้องจ่ายทั้งหมด ซึ่งมีสูตรวิธีการคำนวณดังนี้
- อากรขาเข้า = ราคาสินค้า CIF (ที่คำนวณไว้แล้วตามวิธีการด้านบน) x อัตราภาษีขาเข้า (ตามประเภทสินค้าที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น)
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม = (ราคาสินค้า CIF + อากรขาเข้า) x ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- รวมค่าภาษีทั้งหมดที่ต้องชำระ = อากรขาเข้า + ภาษีมูลค่าเพิ่ม
เพียงเท่านี้เราก็จะทราบแล้วว่าการส่งของจากญี่ปุ่นมาไทยครั้งนี้ เราจะต้องเสียภาษีทั้งหมดเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
2. กระบวนการนำเข้าสินค้าของกรมศุลกากร
ผู้ที่ทำการนำเข้าสินค้าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกรมศุลกากร ดังนี้
• ผู้ประกอบการส่งข้อมูลใบขนสินค้า
ผู้นำเข้าต้องจัดทำ “ใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมแบบแสดงรายการภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม (กศก. 99/.1 )” ตามรูปแบบที่กรมศุลกากรกำหนด และส่งเอกสารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร จากนั้นระบบจะออกเลขที่ใบขนสินค้าขาเข้าเพื่อให้ผู้นำไปชำระภาษีอากร
• ผู้ประกอบการส่งข้อมูลใบขนสินค้า
เมื่อระบบของกรมศุลกากรได้ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะออกเลขที่ใบขนสินค้าขาเข้าเพื่อให้ผู้นำเข้าไปชำระภาษีอากรในขั้นตอนต่อไป
• ชำระค่าภาษี
ผู้นำเข้าจะต้องดำเนินการชำระค่าภาษีอากรและค่าธรรมเนียมศุลกากรให้เรียบร้อยก่อนไปรับการตรวจปล่อยของออกจากอารักขาศุลกากร โดยสามารถชำระได้ทั้งที่หน่วยรับชำระเงินของกรมศุลกากร ชำระผ่านระบบ e-Payment และชำระผ่านระบบ e-Bill Payment ตามเคาน์เตอร์ของธนาคาร
• ดำเนินการตามคำสั่งการตรวจ
ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากรจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลในใบขนสินค้า แล้วแจ้งคำสั่งการตรวจให้ผู้นำเข้าทราบ และไปดำเนินการตามคำสั่งการตรวจต่อไป
• ให้ผู้ประกอบการไปรับของ
หลังจากปฏิบัติตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ผู้นำเข้าก็สามารถไปรับของจากอารักขาศุลกากรได้

ส่งของจากญี่ปุ่นมาไทยด้วยบริการจาก Nonbiri88
Nonbiri88 มีบริการรับสั่งซื้อ พรีออร์เดอร์ ประมูล นำเข้าสินค้า
ส่งของจากญี่ปุ่นมาไทยให้ แถมยังมีบริการจัดส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ หากมีข้อสงสัยหรือสนใจบริการสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @nonbiri88